วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มะเขือม่วง


พืชผักสมุนไพร อย่างมะเขือม่วง ที่เราสามารถนำมารับประทาน เป็นอาหาร ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ ต่อร่างกาย ของเราอย่างมากเลย
มะเขือม่วงชื่ออื่น : มะเขือกะโปกแพะ, มะเขือหำม้า, มะเขือจาน, มะเขือจาวมะพร้าว,
มะเขือม่วงเป็นพืช ดั้งเดิม ของอินเดีย ปลูกง่าย การดู แลรักษา ไม่ยุ่งยาก ถ้าเอาใจใส่ ดีเก็บเกี่ยว ผลผลิตได้ ระยะนาน โรคและ ศัตรูมีน้อย ทนแล้ง ปลูกได้ ตลอดปี ทำเลที่เหมาะอยู่ ในระดับ 500-800 เมตร
มะเขือม่วง พันธุ์ปลูก : Black King
การปลูกมะเขือม่วง
- มะเขือม่วง มีการเพาะกล้า ก่อนย้ายลงปลูกในแปลง
- การเพาะกล้า เตรียมดิน ในกะบะเพาะ หรือในถุงพลาสติก
- การที่เรา หยอดเมล็ดในถุงเพาะ ถุงละ 3-5 เมล็ด ถ้าเพาะ ในกะบะเพาะ ควรเว้น ระยะระหว่างต้น ประมาณ 5 เซนติเมตร ระหว่าง แถว ประมาณ 10 เซนติเมตร ด้วยล่ะ
- เมื่อเมล็ดงอก แล้วมี ใบจริง 2-3 ใบ ถอนแยก เหลือต้นกล้า แข็งแรง สมบูรณ์ไว้ 2 ต้น
- เมื่อกล้ามีใบจริง 5-6 ใบ หรือหลังเพาะกล้าประมาณ 30 วัน ย้ายกล้าลงแปลงปลูก
- ต้นกล้าตั้งตัวได้ หรือ เริ่มเจริญเติบโต ให้เรา ใส่ปุ๋ยยูเรีย 1 ครั้ง
- เมื่อต้น มะเขือม่วง เริ่มออกดอก ก็ให้ใช้ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 12-24-12 ลงไปที่ต้นมะเขือ
- มะเขือม่วง จะมีอายุใน การเก็บเกี่ยว มะเขือ ประมาณ 60-75 วัน หลังจากที่ ทำการย้ายกล้า
ประโยชน์ มะเขือม่วง
สามารถนำมา ประกอบอาหารกิน ผลดิบ-นำมาเผาทาน กับน้ำพริก ก็อร่อย ได้เหมือนกัน
ประโยชน์ทางยา :
ลำต้น ราก- นำมาต้มกิน ช่วยในการ แก้บิด หรือ อาจจะนำมา คั้นน้ำล้างแผลเท้าเปื่อย
ใบแห้ง มะเขือม่วง- นำมาป่นเป็นผง นำมาใช้ เป็นยาแก้โรคบิด ปัสสาวะขัด หนองใน
ดอกสด มะเขือม่วง หรือแห้ง นำมาใช้ เผาให้เป็นเถ้า จากนั้น แล้วบดละเอียด แก้ปวดฟัน
ผลแห้ง-ทำ เป็นยาเม็ด ช่วยในการแก้ปวด แก้ตกเลือด ในสำไส้ ช่วยในการขับเสมหะ
ผลสด-นำมาใช้พอก บริเวณที่เป็น แผลอักเสบ ฝีหนอง หรือ โรคผิวหนังเรื้อรัง การเกิดผดผื่นคัน ที่ผิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น